แบงก์ประเมินเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.60-33.25 บาทต่อดอลลาร์ จับตาตัวเลขจีดีพีไทยไตรมาสที่ 3/64 หลังตลาดคาดการณ์หดตัว -2% ส่งผลต่อการตัดสินใจนักลงทุน ดันโฟลว์ไหลเข้าหุ้น-บอนด์สั้น
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า (วันที่ 15-19 พฤศจิกายน 64) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.60-33.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามจะเป็นการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 3 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ฯ
โดยตลาดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) จะออกมาหดตัว -3% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือหดตัว -4% เมื่อเทียบไตรมาส 2/64 แต่จากแนวโน้มการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงเดือนกันยายน ทำให้ตัวเลขจีดีพีอาจออกมาหดตัว -2% ได้ ซึ่งนักลงทุนรอติดตามดู ซึ่งออกมาดีอาจจะเห็นกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) เข้าตลาดหุ้นได้ และตลาดพันธบัตร (บอนด์) สั้นอาจเห็นเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท ส่วนบอนด์ตัวยาวจะมีแรงเทขายทำกำไรได้
“จุดน่าสนใจนอกจากการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 3 ของสภาพัฒน์ฯ แล้ว จะเห็นว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีเครื่องมือที่ชื่อว่า BOT RAT ซึ่งเป็นเครื่องชี้เร็วเศรษฐกิจภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีเครื่องมืออะไรที่บอกภาวะเศรษฐกิจได้เร็ว โดยเครื่องมือนี้จะมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนที่จะมีผลต่อฟันด์โฟลว์ได้”
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศสำคัญ จะเป็นตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐฯ และมีเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จำนวน 8 คน จะออกมาแสดงท่าทีต่อเศรษฐกิจอย่างไร หากออกมาในโทนไม่กังวลอัตราเงินเฟ้อหรือเศรษฐกิจ อาจเห็นเงินดอลลาร์อ่อนค่าได้ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของประเทศจีน และตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนถาวร ซึ่งหากตัวเลขออกมาไม่ดี จะไม่ดีต่องเศรษฐกิจจีน แต่จะมีผลต่อค่าเงินบาทไม่มากนัก
ส่วนทิศทางกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ตลาดหุ้นซื้อสุทธิ 3,400 ล้านบาท และตลาดบอนด์ซื้อสุทธิ 4.86 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการเข้าซื้อบอนด์ตัวสั้นราว 2 หมื่นล้านบาท และที่เหลือเป็นตัวบอนด์ยาว เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประมูลบอนด์ค่อนข้างเยอะ อย่างไรก็ดี ทิศทางฟันด์โฟลว์สัปดาห์หน้าจะเห็นตลาดหุ้นมีแรงเทขายทำกำไร และจะรอเข้าอีกครั้งหากดัชนี SET ย่อตัวลงมาที่ระดับ 1,620 จุด ส่วนตลาดบอนด์อาจเห็นแรงซื้อหากเงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ได้
นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการสายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้าอยู่ที่ 32.65-33.20 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องติดตามข้อมูลตัวเลขจีดีพีไทยไตรมาส 3 ของไทย ทั้งนี้ ตลาดคาดติดลบ 1.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ข้อมูลหลักจากสหรัฐฯ มียอดค้าปลีกเดือนตุลาคม ปัจจัยที่ต้องติดตามคือกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย หลังมีเงินไหลเข้ามาพักในตลาดพันธบัตรไทยเป็นจำนวนมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านำสกุลเงินภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงสุดในรอบ 31 ปี หนุนบอนด์ยีลด์สหรัฐฯขึ้น เนื่องจากตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้เงินบาทลดช่วงบวกลงมาบ้าง
“ประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จับตาราคาทองคำ รวมถึงการประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับจีน ส่วนฟันด์โฟลว์น่าจะน้อยลง เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมามียอดซื้อพันธบัตรกว่า 4 หมื่นล้านบาท”
อ่านข่าวต้นฉบับ: ตลาดลุ้นจีดีพีไตรมาส 3 หดตัว -2% หนุนโฟลว์เข้าตลาดหุ้น-บาทขยับแข็งค่า